TITLEIST ขอแนะนำชุดเหล็ก T-SERIES เจนเนอเรชั่นล่าสุด: T100, T150, T200 และ T350

ชุดเหล็ก Titleist T-Series รุ่นใหม่ล่าสุด ตั้งมาตรฐานใหม่ของชุดเหล็กประสิทธิภาพสูง เป็นการยืนยันปณิธานที่มุ่งมั่นของ Titleist ในการสร้างชุดเหล็กที่ดีที่สุดในโลก ให้ประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับนักกอล์ฟทุกระดับ ตั้งแต่เหล็กสั้นที่สุด ไปถึงเหล็กที่ยาวที่สุด

ชุดเหล็ก T-Series รุ่นใหม่ – T100, T150, T200 และ T350 ได้รับการพิสูจน์แล้วจากทัวร์ – ให้ ความรู้สึกขณะหน้าไม้ปะทะลูกที่ไร้คู่แข่ง พร้อมให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น ในการตีผ่านลูก และทั้ง สี่รุ่น มีรูปทรงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากทัวร์ การออกแบบของทุกรุ่น เน้นให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ในสามด้าน ที่สำคัญที่สุด สำหรับชุดเหล็ก: การควบคุมระยะทาง ให้ความแม่นยำสูง และ ให้มุมที่ลูกกอล์ฟตกลงพื้นที่เหมาะสม

“ชุดเหล็ก T-Series รุ่นใหม่ รวบรวมการออกแบบ และกระบวนการผลิต ที่ไม่เหมือนใคร” Josh Talge, VP, Titleist Golf Club Marketing กล่าว “เราลงลึก และให้ความสำคัญในทุกรายละเอียด ชุดเหล็กรุ่นใหม่ ให้ประสิทธิภาพดีที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับเหล็กในประเภทเดียวกัน พร้อมรูปลักษณ์ที่สวยงาม และความรู้สึกขณะปะทะลูกที่น่าทึ่ง แต่ละรุ่นได้รับการออกแบบมาให้ ความรู้สึกยอดเยี่ยม เหมือนรูปทรงของมัน พร้อมประสิทธิภาพสูงสุด เป็นชุดเหล็กที่ให้ประสิทธิภาพดีที่สุด เท่าที่เราเคยสร้างมา”

ชุดเหล็ก Titleist ถูกใช้ลงแข่งขันมากที่สุดใน PGA TOUR 18 ฤดูกาล จาก 19 ฤดูกาลล่าสุด รวมถึง 9 ฤดูกาลล่าสุด ในขณะที่ T100 เป็นชุดเหล็กที่ถูกใช้ลงแข่งขันมากที่สุด โดยนักกอล์ฟชั้นนำของโลก ตั้งแต่รุ่นแรก ที่เปิดตัวในทัวร์ในปี 2019

ชุดเหล็ก T-Series รุ่นใหม่ เปิดตัวในทัวร์ครั้งแรกใน PGA TOUR ที่รายการ Memorial Tournament ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้รับการพิสูจน์แล้ว ในการแข่งขันกอล์ฟระดับสูงสุด โปรของ Titleist ที่แข่งขันใน PGA TOUR ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ใช้ชุดเหล็กแบบผสม ด้วยเหล็ก Titleist สองรุ่น แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการทำฟิตติ้ง เพื่อค้นหาอุปกรณ์กอล์ฟที่เหมาะสมทุกชิ้น ที่ควรมีอยู่ในถุงกอล์ฟ

“ชุดเหล็ก T-Series รุ่นใหม่ ยกระดับให้เห็นถึงประสิทธิภาพสูงสุดรอบด้าน ผู้เล่นทุกคนต้องการชุดเหล็ก ที่มีความสม่ำเสมอสูง” Marni Ines, Director, Titleist Irons Development, Golf Club R&D กล่าว “เราต้องการให้ผู้เล่นตีได้ระยะตามที่ต้องการ บ่อยครั้งที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เราต้องการให้ผู้เล่นตีได้ความสูงของวิถีลูกแบบที่พวกเขาชื่นชอบ บ่อยครั้งที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และเราก็ต้องการให้ผู้เล่นตีลูกเข้าเป้าหมายได้อย่างแม่นยำที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ชุดเหล็ก T-Series รุ่นใหม่ทุกรุ่น – ตั้งแต่ T100 ไปจนถึง T350 – ให้ความรู้สึกขณะปะทะลูกที่โดดเด่น รวมถึงให้ประสิทธิภาพดีที่สุดทุกด้าน”

เริ่มทำฟิตติ้งได้ตั้งแต่วันนี้: ทีมคลับฟิตติ้งของ Titleist เริ่มทำฟิตติ้ง ชุดเหล็ก T-Series รุ่นใหม่ ให้กับนักกอล์ฟที่สนใจ ตั้งแต่วันนี้ ชุดเหล็ก T-Series รุ่นใหม่ วางตลาด 25 สิงหาคมนี้ ทีมฟิตติ้งของเรา ทั้งที่ Titleist Fitting Studio สนามไดร์ฟกอล์ฟพระราม 3 และทีมที่ตระเวณไปตามสนามไดร์ฟกอล์ฟต่างๆ จะช่วยนักกอล์ฟทุกคน ค้นหาชุดเหล็ก โดยลงรายละเอียดไปถึงเหล็ก T-Series แต่ละชิ้นในชุด ที่เหมาะสมที่สุด สำหรับคุณ เพื่อจะช่วยให้ผู้เล่นตีเข้าใกล้เป้าหมายได้อย่างแม่นยำ และสม่ำเสมอที่สุด จากเหล็กทุกชิ้นที่อยู่ในถุงกอล์ฟ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำฟิตติ้งไม้กอล์ฟของ Titleist เข้าไปดูได้ที่ https://www.titleist.in.th/fitting

T100 | ชุดเหล็กทัวร์ที่ทันสมัย เหมาะสำหรับนักกอล์ฟฝีมือดี ที่ต้องการชุดเหล็กที่ควบคุมทิศทางได้อย่างแม่นยำ และให้ความรู้สึกขณะหน้าไม้ปะทะลูกที่ยอดเยี่ยม เป็นเหล็กที่ถูกใช้ลงแข่งขันมากที่สุดในทัวร์

ถูกเลือกใช้ โดยผู้เล่นในทัวร์มากกว่าเหล็กรุ่นอื่นๆ ชุดเหล็ก T100 ถูกใช้ลงแข่งขันมากที่สุดในทัวร์ ตั้งแต่รุ่นแรกที่วางตลาดในปี 2019 นักกอล์ฟชั้นนำของโลก ทั้ง Jordan Spieth, Cameron Smith, Justin Thomas, Max Homa, Will Zalatoris, Sungjae Im และ Tom Kim ใช้ชุดเหล็ก T100 ลงแข่งขัน

ประสิทธิภาพ และเทคโนโลยี การพัฒนา และปรับปรุงชุดเหล็ก T100 รุ่นล่าสุด มาจากคำแนะนำ ข้อเสนอแนะ และการทดสอบ ของนักกอล์ฟชั้นนำของโลกหลายท่าน โครงสร้างแบบช่องว่างด้านหลังสองตำแหน่งของ T100 รุ่นใหม่ ผลิตด้วยกระบวนการฟอร์จ ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ให้ความรู้สึกหนักแน่นขึ้น ขณะปะทะลูก และหน้าไม้ผลิตโดยกลึงด้วยเครื่อง CNC กระบวนการใหม่ ที่มีความแม่นยำสูง ทำให้หน้าไม้ปะทะลูกได้อย่างสม่ำเสมอยิ่งขึ้น และให้ประสิทธิภาพในการควบคุมลูกที่ดีขึ้น

ความรู้สึกดียิ่งขึ้น: โครงสร้างเป็นแบบช่องว่างด้านหลังสองตำแหน่ง ผลิตด้วยกระบวนการฟอร์จของ T100 เราปรับปรุงแท่งสำหรับรองรับด้านหลังหน้าไม้ เพื่อให้ความรู้สึกที่ดีขึ้น ขณะปะทะลูก จากการทดสอบ และข้อมูลจากผู้เล่นในทัวร์ ชุดเหล็ก T100 รุ่นใหม่ ปรับแต่งให้มีความรู้สึกตอบสนอง และความเสถียร แบบที่ผู้เล่นชั้นนำของโลกชื่นชอบ ในขณะที่หน้าเหล็กปะทะลูกอย่างหนักแน่น

ทังสเตนที่ดีกว่า เพื่อวิถีลูกที่ดีกว่า: ด้วยการใส่ทังสเตนความหนาแน่นสูง D18 และกระบวนการประสานโลหะที่อุณหภูมิ 2000° แบบงานอากาศยาน ทำให้วิศวกรของ Titleist สามารถกำจัดรอยเชื่อม เพื่อกำหนดตำแหน่งของจุด CG ได้อย่างแม่นยำที่สุด ผลลัพธ์จากเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ให้ความรู้สึกปะทะลูกของเหล็กฟอร์จที่หนักแน่น

ประสิทธิภาพในการควบคุมลูกที่ดีขึ้น: ไม่เพียงแค่โครงสร้างใบเหล็กที่ได้รับการพัฒนา หน้าไม้ของ T100 รุ่นใหม่ ผลิตด้วยการกลึงด้วยเครื่อง CNC อย่างแม่นยำ ทำให้จุด CG อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด ด้วยกระบวนการกลึงหน้าไม้แบบใหม่ ทำให้วิถีลูกสม่ำเสมอยิ่งขึ้น และควบคุมทิศทางได้แม่นยำขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อตีลูกจากแฟร์เวย์ และรัฟชั้นแรก

ตีผ่านลูกได้อย่างง่ายดาย: จากการเก็บข้อมูลจากผู้เล่นในทัวร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านฐานด้านล่างของเว็ดจ์ของ Vokey Design ทีมวิศวกรของ Titleist ออกแบบฐานด้านล่างของ T100 ให้มีมุมกระดอนแบบหลายระดับ โดยเจียรลบมุมที่ด้านหลังของฐาน เป็นผลให้ใบเหล็กตีผ่านลูกได้เร็วขึ้น และยังให้ความเร็วสูงหลังจากปะทะลูกแล้ว

MARNI INES กล่าวว่า: “เราทำงานอย่างหนัก เพื่อปรับปรุง ความรู้สึกขณะปะทะลูก และประสิทธิภาพของ T100 เรายังคงใช้ กระบวนการฟอร์จในการผลิต และออกแบบช่องว่างด้านหลังสองตำแหน่งไว้ เช่นเดิม อย่างไรก็ตาม เหล็กรุ่นนี้ถูกพัฒนาขึ้นใหม่แทบทั้งหมด ทั้งการเปลี่ยนแท่งรองรับหลังหน้าเหล็กที่แข็งแรงขึ้นของ T100 ทำให้เรานำวัสดุในส่วนโคน ปลาย และหน้าไม้ออกไปได้อีก เพื่อนำน้ำหนักไปไว้ในตำแหน่งที่ให้จุด CG เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ได้ความรู้สึกปะทะลูกที่ดีขึ้น ชดเชยความผิดพลาดสูงขึ้น และให้ประสิทธิภาพในการควบคุมลูกที่แม่นยำขึ้น และด้วยกระบวนการกลึงหน้าเหล็กด้วย CNC ทำให้หน้าไม้สม่ำเสมอยิ่งขึ้น ร่องเหล็กสม่ำเสมอยิ่งขึ้น ทำให้สร้างสปิน และตีได้ระยะทางที่สม่ำเสมอยิ่งขึ้น จากการเล่นทุกช็อต”

ก้านเหล็กรุ่นสต็อก: Project X LZ 5.5  เทคโนโลยี Loading Zone: ทำให้ผู้เล่นสร้างพลังจากก้านได้มากขึ้น เพิ่มการถ่ายเทพลังงานไปที่ลูกกอล์ฟ และให้ความรู้สึกที่มีเอกลักษณ์  มุมเหินต่ำ, สปินต่ำ

ก้านเหล็กรุ่นสต็อก: Nippon NS PRO 880 AMC  เทคโนโลยีก้านแบบไล่น้ำหนัก 2 กรัมต่อเบอร์เหล็ก  Regular Flex (93-105 กรัม), มุมเหินปานกลางถึงสูง, สปินปานกลาง  Stiff Flex (95-107 กรัม), มุมเหินปานกลาง, สปินปานกลาง

กริพ: Titleist Universal 360 Grip รุ่นใหม่ ออกแบบเฉพาะสำหรับ Titleist

ราคา: ราคาต่ำที่สุดในการโฆษณา (MAP) ต่อชิ้น ก้านเหล็กรุ่นสต็อก – 7,000 บาท ก้านกราไฟท์รุ่นสต็อก – 7,400 บาท

T150 | ชุดเหล็กทัวร์ความเร็วสูง สำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการความแม่นยำ และความรู้สึกขณะปะทะลูกแบบ T100 พร้อมความเร็วที่สูงกว่า ตีไกลกว่า และชดเชยความผิดพลาดมากกว่า

ผลิตด้วยกระบวนการฟอร์จ และมีโครงสร้างใกล้เคียงกับ T100, T150 ถูกออกแบบให้สร้างความเร็วได้สูงกว่า และตีไกลกว่า มีองศาหน้าเหล็กชันกว่า T100 2° ในเหล็กเบอร์เดียวกัน T150 มีรูปทรงแบบใหม่ ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจ และการชดเชยความผิดพลาด แต่ยังมีความยาวใบเหล็ก และออฟเซ็ทเท่ากันกับ T100 รูปทรงแบบที่นักกอล์ฟจริงจังชื่นชอบ

ประสิทธิภาพ และเทคโนโลยี มีเทคโนโลยีหลายอย่างแบบเดียวกันกับ T100, T150 ให้ประสิทธิภาพสูงสุดรอบด้าน แบบที่นักกอล์ฟจริงจังต้องการ ทั้งจากโครงสร้างแบบฟอร์จทั้งชิ้น องศาหน้าเหล็กที่ชันขึ้น T150 ให้ความรู้สึกขณะปะทะลูก และให้ประสิทธิภาพในการควบคุมวิถีลูกที่แม่นยำ การปรับปรุงช่องว่างด้านหลัง และรูปทรงของใบเหล็ก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความมั่นใจให้กับนักกอล์ฟ

ความรู้สึกดีขึ้น & ความสม่ำเสมอสูงขึ้น: สร้างขึ้นเพื่อเพิ่มความเร็ว การเซาะร่องที่ด้านหลังใบเหล็กของ T150 ถูกย้ายให้เข้ามาใกล้หน้าเหล็กมากขึ้น ให้ความรู้สึกหนักแน่นยิ่งขึ้น ขณะปะทะลูก หน้าเหล็กผลิตด้วยกระบวนการกลึงด้วยเครื่อง CNC อย่างแม่นยำ ทำให้หน้าเหล็ก และร่อง เรียบ และสม่ำเสมอที่สุด ให้ความสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น จากการเล่นทุกช็อต

ทังสเตนที่ดีกว่า เพื่อวิถีลูกที่ดีกว่า: ด้วยการใส่ทังสเตนความหนาแน่นสูง D18 และกระบวนการประสานโลหะที่อุณหภูมิ 2000° แบบงานอากาศยาน ทำให้วิศวกรของ Titleist สามารถกำจัดรอยเชื่อม เพื่อกำหนดตำแหน่งของจุด CG ได้อย่างแม่นยำที่สุด เพื่อเพิ่มค่า MOI และให้มุมเหินที่เหมาะสม สำหรับนักกอล์ฟ อีกทั้งยังให้ความรู้สึกปะทะลูกที่หนักแน่น ของเหล็กฟอร์จ

รูปทรงที่นักกอล์ฟชื่นชอบ: จากข้อมูลที่เราได้จากนักกอล์ฟ T150 มีรูปทรง และขอบด้านบนที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้เล่น รูปทรงที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ช่วยเพิ่มการชดเชยความผิดพลาด แต่ยังมีรูปทรงที่ปราดเปรียว แบบเหล็กที่นักกอล์ฟในทัวร์ชื่นชอบ

ตีผ่านลูกได้อย่างง่ายดาย: ฐานด้านล่างของชุดเหล็ก T150 ถูกออกแบบให้มีมุมกระดอนแบบไล่ระดับ โดยเจียรลบมุมที่ด้านหลังของฐาน เป็นผลให้ใบเหล็กตีหญ้าได้เร็วขึ้น ให้ความรู้สึกแบบเหล็กที่ผู้เล่นในทัวร์ชื่นชอบ

MARNI INES กล่าวว่า: “โครงสร้างที่แตกต่างกัน ระหว่าง T150 และ T100 คือ ช่องด้านหลังที่แท่งรองรับหน้าไม้ โดยเราออกแบบขึ้นใหม่สำหรับ T150 ช่องด้านหลังถูกย้ายให้เข้าไปใกล้กับหน้าไม้มากขึ้น ด้วยการวางตำแหน่งจุด CG จากการใส่ทังสเตน D18 ทำให้เราทำแบบนี้ได้ ซึ่งทำให้ T150 ให้ความแม่นยำสูงขึ้นในการควบคุมระยะ เรารับฟังความคิดเห็นจากนักกอล์ฟจำนวนมาก และทราบว่า T100•S มีขนาดเล็กเกินไป ตามความรู้สึกของพวกเขา ชุดเหล็กรุ่นนี้ ปรับปรุงจากความคิดเห็นเหล่านั้น เราเพิ่มความหนาของขอบด้านบน และทำให้ฐานด้านล่างกว้างขึ้น ซึ่งทำให้เราวางตำแหน่งของจุด CG ได้ต่ำลง ไม่ว่าผู้เล่นจะเหมาะสมกับการใช้ T150 ทั้งชุด หรือเหมาะกับการใช้ชุดเหล็กแบบผสม พวกเขาจะได้ทั้งความเร็วลูกกอล์ฟที่สูงขึ้น และมุมเหินที่สูงขึ้น จากเหล็ก T150 ทุกเบอร์ในถุงกอล์ฟ”

ก้านเหล็กรุ่นสต็อก: Project X LZ 5.5  เทคโนโลยี Loading Zone: ทำให้ผู้เล่นสร้างพลังจากก้านได้มาขึ้น เพิ่มการถ่ายเทพลังงานไปที่ลูกกอล์ฟ และให้ความรู้สึกที่มีเอกลักษณ์  มุมเหินต่ำ, สปินต่ำ

ก้านเหล็กรุ่นสต็อก: Nippon NS PRO 880 AMC  เทคโนโลยีก้านแบบไล่น้ำหนัก 2 กรัมต่อเบอร์เหล็ก  Regular Flex (93-105 กรัม), มุมเหินปานกลางถึงสูง, สปินปานกลาง  Stiff Flex (95-107 กรัม), มุมเหินปานกลาง, สปินปานกลาง

กริพ: Titleist Universal 360 Grip รุ่นใหม่ ออกแบบเฉพาะสำหรับ Titleist

ราคา: ราคาต่ำที่สุดในการโฆษณา (MAP) ต่อชิ้น ก้านเหล็กรุ่นสต็อก – 7,000 บาท ก้านกราไฟท์รุ่นสต็อก – 7,400 บาท

T200 | เหล็กตีไกล สำหรับนักกอล์ฟจริงจัง เหมาะสำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการเพิ่มระยะ และประสิทธิภาพในการชดเชยความผิดพลาด ในรูปทรงที่ปราดเปรียว ให้ความรู้สึกดีเยี่ยมขณะปะทะลูก พร้อมวิถีลูกลอยสูงอย่างเหมาะสม และให้พลังสูงในการหยุดลูก

พบกับรูปทรงที่นักกอล์ฟจริงจังชื่นชอบ พร้อมประสิทธิภาพสูงสุดรอบด้าน และความรู้สึกขณะปะทะลูก ที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น T200 รุ่นใหม่ เป็นตัวแทนของเหล็กตีไกล สำหรับนักกอล์ฟจริงจัง ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว โดยผู้เล่นในทัวร์

“รูปทรง และประสิทธิภาพของ T200 รุ่นก่อน ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี” Talge กล่าว “การออกแบบให้เหล็กมีรูปทรง และรูปลักษณ์ แบบเหล็กสำหรับผู้เล่นฝีมือดี แต่ให้ประสิทธิภาพที่ช่วยพัฒนาเกมการเล่นของนักกอล์ฟ ต้องใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยีในการผลิตขั้นสูง และผลลัพธ์ก็คือ ชุดเหล็ก T200 ถูกใช้ลงแข่งขันโดยผู้เล่นในทัวร์ จำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเหล็กยาว เราทราบดีว่า เราสามารถพัฒนาให้เหล็กรุ่นนี้ ให้ความรู้สึกที่ดียิ่งขึ้นไปอีก รวมถึงให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น เรายกระดับ T200 รุ่นใหม่ ให้สูงขึ้นไปอีกขึ้น และนี่คือสิ่งที่ Marni หัวหน้าทีมออกแบบชุดเหล็ก และทีมงานของเขา ทำได้สำเร็จ”

ประสิทธิภาพ และเทคโนโลยี T200 รุ่นใหม่ล่าสุด ให้ความรู้สึกขณะหน้าไม้ปะทะลูกที่ดีขึ้น แบบที่นักกอล์ฟสัมผัสได้ การออกแบบโครงสร้างภายในขึ้นใหม่ทั้งหมด ยกระดับ T200 ขึ้นไปอีกขั้น ด้วยโครงสร้างด้านใน ที่มั่นคงยิ่งขึ้น เทคโนโลยี Max Impact ที่พัฒนาให้ดีขึ้น และหน้าเหล็กแบบใหม่ ที่มีความหนาไล่ระดับ แบบ dual taper ให้ความรู้สึกแบบที่ผู้เล่นในทัวร์ชื่นชอบ และให้ความเร็วสูง จากหน้าเหล็กที่ผลิตด้วยกระบวนการฟอร์จ

ความรู้สึกดียิ่งขึ้น: การปรับปรุง และพัฒนาสำหรับเหล็ก T200 ให้ความรู้สึกที่หนักแน่นยิ่งขึ้น ขณะปะทะลูกจากทั่วทั้งหน้าไม้ โครงสร้างด้านในถูกพัฒนาขึ้นใหม่ ให้มีความแข็งมากขึ้น ซึ่งทำให้เราพัฒนาเทคโนโลยี Max Impact ให้เหมาะสมที่สุด กับหน้าเหล็กฟอร์จแบบใหม่ ความหนาไล่ระดับแบบ dual taper

ทังสเตนที่ดีกว่า เพื่อวิถีลูกที่ดีกว่า: ด้วยการใส่ทังสเตนความหนาแน่นสูง D18 และกระบวนการประสานโลหะที่อุณหภูมิ 2000° แบบงานอากาศยาน ทำให้วิศวกรของ Titleist ออกแบบให้ T200 มีประสิทธิภาพสูงสุด ในทุกเบอร์เหล็ก ทั้งความเร็วสูง มุมเหินสูง ในเหล็กยาว ไปจนถึง ให้ความแม่นยำสูง และชดเชยความผิดพลาดสูง ในเหล็กสั้น

รูปทรงสะอาดตา และช่วยเพิ่มความมั่นใจ: นอกจากการปรับปรุงที่โครงสร้างด้านในของ T200 เรายังคงรูปทรงของ T200 ที่นักกอล์ฟในทัวร์ชื่นชอบไว้เช่นเดิม รูปทรงที่ดูสะอาดตา ขณะจรดลูก ช่วยเพิ่มความมั่นใจ และความยาวใบเหล็ก ออฟเซ็ท ที่เท่ากันกับ T100 และ T150 ทำให้นักกอล์ฟที่เหมาะกับการใช้ชุดเหล็กแบบผสม สามารถใช้งานได้อย่างไร้รอยต่อ จากเหล็กทุกชิ้นในชุด

ตีผ่านลูกได้อย่างง่ายดาย: ฐานด้านล่างของ T200 รุ่นใหม่ ถูกออกแบบให้มีมุมกระดอนหลายระดับ แบบเดียวกันกับฐานของ T100 ให้ความรู้สึกขณะตีผ่านลูก แบบที่นักกอล์ฟฝีมือดีชื่นชอบ อันเป็นผลมาจากคำแนะนำของผู้เล่นในทัวร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านฐานด้านล่างของ Vokey Design โดยฐานด้านล่างของ T200 รุ่นใหม่ มีการเจียรลบมุมที่ส่วนท้าย ทำให้ตีผ่านลูกได้เร็วขึ้น และนุ่มนวลยิ่งขึ้น

MARNI INES กล่าวว่า: “ในการเริ่มต้นพัฒนาเหล็ก T200 รุ่นใหม่ สิ่งแรกที่เราต้องทำ คือ รับฟังความคำแนะนำจากผู้เล่น เราไม่ได้เปลี่ยนรูปทรงของ T200 แต่สิ่งที่อยู่ด้านในถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด เราออกแบบโครงสร้างด้านในใหม่ โดยย้ายชิ้นส่วนที่รองรับหน้าไม้ ให้อยู่กลางหน้าไม้ยิ่งขึ้น นอกจากนี้เรายังออกแบบแท่นรองรับยางโพลีเมอร์ขึ้นใหม่ รวมถึงเปลี่ยนความหนาของก้อนโพลีเมอร์ ทั้งหมดของการเปลี่ยนแปลงนี้ เพื่อเป้าหมายหลัก คือทำให้เหล็ก T200 รุ่นใหม่ ให้ความรู้สึกดีที่สุด เท่าที่เป็นไปได้”

ก้านเหล็กรุ่นสต็อก: Project X LZ 5.5  เทคโนโลยี Loading Zone: ทำให้ผู้เล่นสร้างพลังจากก้านได้มาขึ้น เพิ่มการถ่ายเทพลังงานไปที่ลูกกอล์ฟ และให้ความรู้สึกที่มีเอกลักษณ์  มุมเหินต่ำ, สปินต่ำ

ก้านเหล็กรุ่นสต็อก: Nippon NS PRO 880 AMC  เทคโนโลยีก้านแบบไล่น้ำหนัก 2 กรัมต่อเบอร์เหล็ก  Regular Flex (93-105 กรัม), มุมเหินปานกลางถึงสูง, สปินปานกลาง  Stiff Flex (95-107 กรัม), มุมเหินปานกลาง, สปินปานกลาง

กริพ: Titleist Universal 360 Grip รุ่นใหม่ ออกแบบเฉพาะสำหรับ Titleist

ราคา: ราคาต่ำที่สุดในการโฆษณา (MAP) ต่อชิ้น ก้านเหล็กรุ่นสต็อก – 7,000 บาท ก้านกราไฟท์รุ่นสต็อก – 7,400 บาท

T350 | ชุดเหล็กช่วยพัฒนาเกมการเล่นที่เหนือระดับ เหมาะสำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการ เหล็กที่ให้มุมเหินสูง ตีไกลเป็นพิเศษ และชดเชยความผิดพลาดสูงสุด วิถีลูกสูง ตีไกล ชดเชยความผิดพลาดสูงมาก นี่คือคำจำกัดความของเหล็ก T350 ให้สมรรถนะดีที่สุด รูปทรงดูดีที่สุด และความรู้สึกดีที่สุด ในเหล็กแบบช่วยพัฒนาเกมการเล่น เท่าที่ Titleist เคยมีมา

ประสิทธิภาพ และเทคโนโลยี ด้วยโครงสร้างใบเหล็กแบบด้านในกลวง ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเหล็กที่พิสูจน์แล้วจากทัวร์ อย่าง T200, T350 ให้ความเร็วสูงสุด และชดเชยความผิดพลาดสูงสุด จากเทคโนโลยี Max Impact ที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงหน้าเหล็กผลิตด้วยกระบวนการฟอร์จ ความหนาแบบ dual-taper ที่ถูกออกแบบขึ้นใหม่ พร้อมการใส่ทังสเตนสองชิ้นที่ฐานด้านล่าง ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และได้รับความเชื่อมั่นจากทัวร์ ถูกนำมาสู่นักกอล์ฟทั่วไปทุกระดับฝีมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้เล่นที่ต้องการมุมเหินที่สูงขึ้น และตีไกลขึ้น

“T350 เป็นชุดเหล็กแบบช่วยพัฒนาเกมการเล่น ที่ดีที่สุด เท่าที่เราเคยมีมา มีประสิทธิภาพทุกอย่างที่นักกอล์ฟต้องการจากเหล็กประเภทนี้ – ตีลูกลอยง่าย ให้ระยะไกลเป็นพิเศษ และชดเชยความผิดพลาดสูงมาก – นอกจากนี้ ยังให้ความรู้สึกขณะปะทะลูกที่ดีเยี่ยม และรูปทรงสวยงามอย่างลงตัว ในรุ่นล่าสุด เมื่อเปรียบเทียบกับเหล็กประเภทเดียวกันรุ่นอื่นๆ” Talge กล่าว “การได้เห็นชุดเหล็กที่ชดเชยความผิดพลาดสูงสุดของเรา ถูกใช้ลงแข่งขันในทัวร์ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความหลากหลาย ของเหล็กรุ่นล่าสุดทุกรุ่นของเรา และประสิทธิภาพที่เป็นข้อได้เปรียบจากเหล็กแต่ละรุ่น ที่ไม่จำกัดสำหรับนักกอล์ฟกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง”

โครงสร้างแบบเหล็กสำหรับนักกอล์ฟจริงจัง: ถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่กว่า และชดเชยความผิดพลาดสูงกว่า T200, T350 ชดเชยความผิดพลาดได้สูงสุด และยังให้ความรู้สึกขณะปะทะลูกแบบที่นักกอล์ฟจริงจังชื่นชอบ ประสิทธิภาพ และความรู้สึกที่เหนือระดับ เป็นผลมาจากโครงสร้างใบเหล็กแบบด้านในกลวง ผสมผสานวัสดุหลากชนิดแบบใหม่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจโดยตรงจากโครงสร้างของเหล็ก T200

ทังสเตนที่ดีกว่า เพื่อวิถีลูกที่ดีกว่า: เพื่อการเชื่อมต่อที่ดีที่สุด ระหว่างเหล็กสำหรับนักกอล์ฟจริงจัง และเหล็กที่ช่วยพัฒนาเกมการเล่น T350 ใส่ทังสเตนที่ฐานด้านล่างสองก้อน แบบเดียวกันกับ T100, T150 และ T200 เพื่อความรู้สึกขณะปะทะลูกที่หนักแน่น และชดเชยความผิดพลาดสูงสุด

ความเร็วสูงสุดจากทั่วทั้งหน้าไม้: การปรับปรุง และพัฒนาให้เทคโนโลยี Max Impact ให้ประสิทธิภาพสูงสุด ทำงานร่วมกับหน้าเหล็กฟอร์จแบบ dual-taper ที่ออกแบบขึ้นใหม่ ช่วยสร้างความเร็วได้สูงมาก จากทั่วทั้งหน้าไม้ หน้าเหล็กของ T350 ถูกออกแบบให้ตีได้ระยะแครี่ไกล และสม่ำเสมอ ทั้งช็อตที่โดนกลาง และพลาดกลางหน้าไม้ ทำให้ตีได้ระยะทางตามที่ต้องการ อย่างสม่ำเสมอ

ตีผ่านลูกได้อย่างง่ายดาย: ออกแบบฐานด้านล่างแบบเดียวกันกับ T100, T150 และ T200, T350 มีมุมกระดอนที่ฐานด้านล่างหลายระดับ เช่นกัน โดยการเจียรลบมุมที่ส่วนหลัง ซึ่งช่วยให้ใบเหล็กตีผ่านลูกได้เร็วขึ้น ให้ความรู้สึกขณะปะทะลูกที่ดีขึ้นไปอีกขั้น

MARNI INES กล่าวว่า: “โครงสร้างทั้งหมดของ T350 เปรียบเสมือนการยกระดับครั้งใหญ่จากรุ่นก่อน เราย้ายจากโครงสร้างแบบชิ้นเดียว มาเป็นหน้าเหล็กผลิตด้วยกระบวนการฟอร์จ ความหนาของหน้าเหล็กแบบ dual-taper และโครงสร้างแบบด้านในกลวง T350 ให้ประสิทธิภาพสูงกว่า จากการพัฒนาโครงสร้าง Max Impact ขึ้นใหม่ โดยให้ชิ้นส่วนที่รองรับยางโพลีเมอร์ อยู่กลางหน้าเหล็กยิ่งขึ้น นอกจากนี้ โครงสร้างด้านในถูกออกแบบให้มีความแข็งมากขึ้น ซึ่งช่วยซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีขึ้น นอกจากนี้ เรายังเปลี่ยนจากการใส่ทังสเตนแบบชิ้นเดียว เป็นสองชิ้น ใส่ที่ด้านโคน และปลาย ทำให้ค่า MOI ของเหล็ก T350 สูงขึ้น ด้วยการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ ทำให้ชุดเหล็ก T350 รุ่นใหม่ ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น ในทุกด้านเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน ให้ความเร็วสูงขึ้นจากทั่วทั้งหน้าไม้ ให้วิถีลูกสูงขึ้น รวมถึงให้ความแม่นยำ และสม่ำเสมอยิ่งขึ้น”

ก้านเหล็กรุ่นสต็อก: Nippon NS PRO ZELOS 8  ใช้เหล็กสูตรใหม่ที่เรียกว่า NZNS60 ที่สามารถสร้างก้านเหล็กให้บางยิ่งขึ้น และเบามากขึ้น  Zelos ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับก้านกราไฟท์ และให้ความแม่นยำในการควบคุมลูกแบบก้านเหล็ก  มุมเหินปานกลางถึงสูง, สปินสูง

ก้านเหล็กรุ่นสต็อก: Nippon NS PRO 880 AMC  เทคโนโลยีก้านแบบไล่น้ำหนัก 2 กรัมต่อเบอร์เหล็ก  Regular Flex (93-105 กรัม), มุมเหินปานกลางถึงสูง, สปินปานกลาง  Stiff Flex (95-107 กรัม), มุมเหินปานกลาง, สปินปานกลาง

กริพ: Titleist Universal 360 Grip รุ่นใหม่ ออกแบบเฉพาะสำหรับ Titleist

ราคา: ราคาต่ำที่สุดในการโฆษณา (MAP) ต่อชิ้น ก้านเหล็กรุ่นสต็อก – 7,000 บาท ก้านกราไฟท์รุ่นสต็อก – 7,400 บาท

T SERIES ในทัวร์ ตั้งแต่เปิดตัวใน PGA TOUR ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เหล็ก T-Series รุ่นใหม่ ถูกนำมาใช้ลงแข่งขันแล้ว โดยผู้เล่นในทัวร์ทั่วโลก

• Cameron Young เป็นหนึ่งในผู้เล่นกลุ่มแรกๆ ที่เปลี่ยนมาใช้เหล็ก T-Series รุ่นใหม่ ลงแข่งขัน ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่เปิดตัวในทัวร์ โดยใช้เหล็ก 4-5 T100 รุ่นใหม่ มาผสมกับเหล็กชุดเดิมที่เขาใช้อยู่

YOUNG กล่าวว่า: “จริงๆแล้วผมชอบสิ่งที่เหล็ก T100 เป็นอยู่ มันตีผ่านลูกได้ดีกว่า MB สำหรับผม เพราะผมตีเข้าลูกในมุมที่ชัน และมีไดว้อทลึก ฐานด้านล่างที่กว้างขึ้นเล็กน้อย ช่วยผมได้จริงๆในเหล็กยาว มันช่วยให้ผมตีลูกลอยได้ง่ายขึ้น และมีรอยไดว้อทแบบที่ผมต้องการ... ที่มากไปกว่านั้น ทั้ง T100 และ MB มีรูปทรงที่ใกล้เคียงกัน ขณะจรดลูก นอกจากนี้ ยังให้ความรู้สึกหนักแน่นในแบบเดียวกัน ขณะปะทะลูก ผมไม่ได้มีความรู้สึกในการเล่นที่แตกต่างกันเลย ไม่ได้ชอบที่จะตีเหล็ก 6 มากกว่า เพราะเป็น MB”

“ความแตกต่างที่ผมเห็นได้ชัดระหว่างเหล็กสองรุ่น คือ ช็อตที่ตีพลาดกลางหน้าไม้ สำหรับ T100 มันให้การชดเชยผิดพลาดสูงกว่า MB แต่ผมรู้สึกว่า มันเหมาะกับผมที่สุดในเหล็กยาว มันให้ทุกสิ่งที่ผมต้องการจากเหล็ก 4 และ 5 ผมต้องการให้ลูกลอยสูง ผมไม่ต้องการให้วิถีลูกเลี้ยวไปทั่ว ผมไม่ต้องการเล่นแต่งช็อตมากนักในเหล็กยาว ผมต้องการให้มันเล่นง่ายขึ้น และนี่คือเหตุผล ที่ผมเลือกใช้มันในเหล็กยาว”

“ผมคิดว่า ทีมวิจัย และพัฒนาของเรา สร้างเหล็ก ที่ให้ความรู้สึกที่สม่ำเสมอ ไล่ตั้งแต่ MB ไปจนถึงรุ่นที่ใบเหล็กมีขนาดใหญ่กว่า แต่ละรุ่นให้ความให้ความสม่ำเสมอ ในแบบที่นักกอล์ฟต้องการ และคุณสามารถเลือกใช้รุ่นที่เหมาะสม กับรูปแบบการตีเข้าปะทะลูกของคุณ นอกจากนี้ สิ่งที่น่าทึ่งคือความรู้สึกขณะปะทะลูกของ T100 รุ่นใหม่ น่าทึ่งมาก มันให้ความรู้สึกเหมือนเหล็กเบลด เมื่อคุณทราบว่า ผลลัพธ์ที่ได้เป็นแบบที่ต้องการ เมื่อตีปะทะลูกได้แบบที่คิดไว้ มันสำคัญมากสำหรับผม”

• ทั้ง Tom Kim และ Cameron Smith ใช้ T-Series รุ่นใหม่ ลงแข่งขันครั้งแรก ที่ U.S. Open สนามกอล์ฟ Los Angeles Country Club โดยที่ Smith ใช้เหล็ก T100 5-9 จบการแข่งขันในอันดับที่ 4 ในขณะที่ Kim ใช้ T200 เหล็ก 3 และ T100 เหล็ก 4-9 จบในอันดับที่ 8

TOM KIM กล่าวว่า: “ความรู้สึกขณะปะทะลูก ดีขึ้นมาก เมื่อเปรียบเทียบกับเหล็กรุ่นเดิมที่ผมใช้อยู่ ผมใช้เหล็ก T100 รุ่นก่อน มาแล้ว 3 ชุด และตอนที่ทดลองเหล็กรุ่นใหม่ ผมไม่คิดว่ามันจะเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย แต่ T100 รุ่นใหม่ ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด”

KIM กับเหล็ก T200 รุ่นใหม่: “เสียงปะทะลูกเปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช็อตที่ตีพลาด เสียงปะทะลูกใกล้เคียงกับช็อตที่ผมตีได้อย่างหนักแน่น วิถีลูกก็เช่นกัน มันไม่ได้เปลี่ยนไปมาก ในช็อตที่พลาด เหล็ก T200 รุ่นใหม่ ยังให้วิถีลูกใกล้เคียงกับช็อตที่ดี สำหรับผม”

• โปรของ Titleist, Davis Riley เปลี่ยนมาใช้ T100 เหล็ก 4 เช่นกัน:

RILEY กล่าวว่า: “ผมทดลอง และมั่นใจว่า สามารถใช้มันลงแข่งขันได้ทันที มันบ้ามากที่เวลาจรดลูก แล้วไม่ได้ให้ความรู้สึกต่างจาก MB ขอบด้านบนบาง ความรู้สึกขณะปะทะลูก ผมชอบ MB มากๆ ทั้งการตีผ่านลูก และความรู้สึกขณะปะทะลูก สำหรับ T100 รุ่นใหม่ มันให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับ MB มากๆ ซึ่งทำให้ผมมั่นใจที่จะใช้มันในทันที ผมอาจจะใช้ T100 มากชิ้นขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเหล็กยาว เพราะความรู้สึกที่ได้ และประสิทธิภาพในการตีผ่านลูกใกล้เคียงกับ MB มาก และยังได้การชดเชยความผิดพลาดที่มากกว่า”

• Peter Malnati ใช้ชุดเหล็กแบบผสม T100 เหล็ก 5-9 และ T200 เหล็ก 4 ลงแข่งขันที่รายการ Memorial และในสัปดาหุถัดมา เขาใช้ T350 ลงแข่งขัน ในเหล็กยาว

นอกจากนี้ ยังมีผู้เล่นชั้นนำจำนวนมาก เปลี่ยนมาใช้เหล็ก T-Series ลงแข่งขันแล้ว ประกอบด้วย: Byeong Hun An (T200 เหล็ก 3, T150 เหล็ก 4-5), Jordan Smith (T100 เหล็ก 4), Antoine Rozner (T100 เหล็ก 3-5), Ben Taylor (T100 เหล็ก 4-9), Beau Hossler (T200 เหล็ก 5), Lee Hodges (T100 เหล็ก 4-6) และ Garrick Higgo (T100 เหล็ก 4-9) นักกอล์ฟสตรีมืออันดับที่ 3 ของโลก ตาม Rolex Women’s World Ranking ใช้ T200 เหล็ก 5 ลงแข่งขัน

กระบวนการฟิตติ้งชุดเหล็กของ TITLEIST
Titleist ทำฟิตติ้งชุดเหล็ก โดยให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพในสามด้านหลัก ได้แก่ การควบคุมระยะ ความแม่นยำ และมุมที่ลูกกอล์ฟตกลงพื้น ชุดเหล็ก T-Series ทุกรุ่น ถูกออกแบบให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ในสามด้านนี้

• การควบคุมระยะ: เราจะค้นหาชุดเหล็กที่ให้ระยะแครี่ ดีที่สุดสำหรับคุณ และให้เหล็กแต่ละเบอร์ ตีได้ความเร็วลูกกอล์ฟต่างกันอย่างสม่ำเสมอที่ 5 mph นักกอล์ฟบางท่าน อาจจะเหมาะสมกับชุดเหล็กแบบผสม เพื่อระยะห่างระหว่างเหล็กแต่ละชิ้นที่เหมาะสมที่สุด หรือต้องเปลี่ยนมาใช้ เหล็กยูทิลิตี้ หรือไม้ไฮบริด แทนเหล็กยาว

• ความแม่นยำ: วิเคราะห์วิถีลูกที่เหมาะสม จากการตีชุดเหล็กแต่ละรุ่น หรือผสมรุ่น เราทำฟิตติ้งเพื่อค้นหาชุดเหล็กที่ช่วยให้คุณ ตีลูกเข้าเป้าหมายได้ใกล้ที่สุด เพื่อเพิ่มโอกาสในการลดสกอร์ ได้บ่อยครั้งยิ่งขึ้น

• มุมที่ลูกกอล์ฟตกลงพื้น: พลังในการหยุดลูกที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญในการลดสกอร์ เราทำฟิตติ้งเพื่อค้นหาเหล็กทุกชิ้นในชุดของคุณ ที่ให้มุมที่ลูกกอล์ฟตกลงเข้าเป้าหมายที่เหมาะสม ตกลงในมุมที่ชันเพียงพอ ให้ลูกกอล์ฟหยุดได้เร็ว โดยวัดมุมที่ลูกตกลงพื้นที่เหมาะสมที่สุด ในแต่ละช่วงองศาหน้าไม้ ตั้งแต่ เหล็กสั้นที่สุด ไปถึงเหล็กยาวที่สุดในชุด

นักกอล์ฟที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และจองเวลาทำฟิตติ้งกับ Titleist ได้ที่ https://www.titleist.in.th/thailand-club-fitting

ข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ วัชระ กาฬภักดี – Product and Marketing Manager, Titleist บริษัท แอคูชเน็ทกอล์ฟ (ประเทศไทย) จำกัด โทร 097-221-8141