ยินดีกับ “โปรเป้ง” ธนภัทร พิชัยกุลแชมป์ “สิงห์ ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส” ครั้งที่ 24

“โปรเป้ง” ธนภัทร พิชัยกุล ทำรอบสุดท้าย 4 อันเดอร์ คว้าแชมป์ขาดลอย 9 สโตรก ที่สกอร์รวม 23 อันเดอร์ ในออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ รายการ “สิงห์ ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส” ครั้งที่ 24 ชิงเงินรางวัลรวม 5 ล้านบาท ณ สนามสันติบุรี คันทรี คลับ ระยะ 7,112 หลา พาร์ 72 จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2566

“โปรเป้ง” ธนภัทร ซึ่งจบรอบสามนำอันดับสอง 2 สโตรก ตีเพิ่มรอบสุดท้าย 4 อันเดอร์ จากการทำ 6 เบอร์ดี้ 2 โบกี้ คว้าแชมป์ที่สกอร์รวม 23 อันเดอร์ โดยมี นักกอล์ฟสมัครเล่น “ทีเค” รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ ซึ่งรอบสุดท้ายทำ 3 โอเวอร์ จบอันดับ 2 ตามหลังแชมป์ 9 สโตรก ที่สกอร์รวม 14 อันเดอร์ ชัยชนะครั้งนี้นับเป็นแชมป์ที่ 2 ของธนภัทรในออลไทยแลนด์ฯ แต่เป็นแชมป์แรกที่ทำได้ในฐานะนักกอล์ฟอาชีพ หลังจากเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ได้แชมป์ในรายการ สิงห์ แชมเปี้ยนชิพ 2019 ในฐานะนักกอล์ฟสมัครเล่น

“แชมป์นี้ทำให้ผมได้ความมั่นใจมากขึ้นเยอะครับ เพราะที่ผ่านมา 2 ปี ผมตีไม่ได้เลย มีปัญหาเยอะแยะ” โปรเป้ง ที่เพิ่งจะอายุครบ 24 ปี เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กล่าว
“จริงๆ คิดว่าแข่งแมตช์นี้ ตามด้วยแมตช์ไต้หวัน และไทยแลนด์ โอเพ่น แบบไม่มีความกดดันแล้ว ปีหน้าก็อาจจะพัก 1 ปี แบบไม่แข่ง แต่ตอนนี้ก็ทำได้แล้ว ก็จะสู้ต่อครับ”
ส่วนเคล็ดลับในการกลับมาสู่ความสำเร็จคว้าแชมป์อีกครั้งนั้น ธนภัทร กล่าวว่า เป็นเรื่องของการปล่อยวางเพราะว่าการเป็นนักกอล์ฟอาชีพนั้นมีเก็บความกดดัน ความหวัง ทำให้เล่นไม่ได้เหมือนที่ซ้อม และทำอะไรไม่ได้เลย
“แต่ก่อนมาแมตช์นี้ ก็คิดว่าไม่มีอะไรจะต้องเสีย ปลดปล่อยทุกอย่าง และก็ให้สนุก”
ธนภัทร รับเงินรางวัล 750,000 บาท ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 9 ในอันดับเงินรางวัลสะสมออลไทยแลนด์ฯ 2023 ที่จำนวน 846,825 บาท จากการเล่น 8 รายการ นอกจากนั้น ยังได้สิทธิ์เล่นในทัวร์ถึงปี 2026 ขณะที่ “ทีเค” รัชชานนท์ รับรางวัล “ศุภพร มาพึ่งพงศ์” ซึ่งมอบให้กับนักกอล์ฟสมัครผลงานดีที่สุดในแต่ละรายการของออลไทยแลนด์ฯ
อันดับ 3 ร่วม สกอร์รวมคนละ 13 อันเดอร์ ได้แก่ ออสการ์ เซตเตอร์วอลล์, ชัพชัย นิราศ, พรหม มีสวัสดิ์ และสุรดิษ์ ยงค์เจริญชัย รับเงินรางวัลคนละ 278,750 บาท
กุณช์ธณัฎ พนดร อันดับ 7 สกอร์รวม 12 อันเดอร์ รับเงินรางวัล 133,750 บาท จณัตว์ สกุลพลไพศาล และกัมลาศ นาเมืองรักษ์ จบที่ 8 ร่วม สกอร์รวมคนละ 11 อันเดอร์ รับเงินรางวัลคนละ 112,500 บาท
อันดับ 10 ร่วมที่สกอร์รวมคนละ 10 อันเดอร์ ได้แก่ ชลทิตย์ ชื่นบุญงาม, อาเมียร์ นาซริน, ธาวิท พลไทย, เด่นวิทย์ เดวิด บริบูรณ์ทรัพย์ รับเงินรางวัลคนละ 91,125 บาท
สำหรับรายการต่อไปของออลไทยแลนด์ฯ 2023 ซึ่งเป็นรายการสุดท้ายจะเป็นการแข่งขันรายการ “ไทยแลนด์ โอเพ่น” ครั้งที่ 51 ชิงเงินรางวัลรวม 5 ล้านบาท ณ สนาม ริเวอร์เดล กอล์ฟ คลับ จังหวัดปทุมธานี วันที่ 7-10 ธันวาคม 2566